การตรวจจับวัตถุโดยใช้เซ็นเซอร์แสง คืออะไร
ในการตรวจจับชิ้นงานหรือวัตถุที่อยู่บนสายพานลำเลียง หรือการใช้งานในการตรวจจับวัตถุหรือตำแหน่งของวัตถุในกระบวนการการผลิต จำเป็นที่จะต้องใช้เซ็นเซอร์แสงนำมาใช้งานเพราะสามารถตรวจจับวัตถุโดยไม่ต้องมีการสัมผัส มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว มีระยะการตรวจจับได้ไกล สามารถตรวจวัตถุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวชนิดแบบไหน ก็สามารถตรวจจับได้
เซ็นเซอร์แสง หรือ Photoelectric Sensor คือ เซ็นเซอร์ที่ใช้ลำแสงในการตรวจจับวัตถุ มีทั้งชนิดที่มองเห็นลำแสงและมองไม่เห็นลำแสง โดย Photoelectric Sensor จะอาศัยหลักการสะท้อนหรือการหักเหของแสง จากตัวส่ง ไปยังตัวรับ โดยภายในโครงสร้างของตัว Photoelectric Sensor จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ภาคส่งสัญญาณ Emitter และภาครับสัญญาณ Receiver ลักษณะการตรวจจับเกิดจากการที่ลำแสงจากตัวส่งแสง ส่งไปสะท้อนกับวัตถุหรือถูกขวางกั้นด้วยวัตถุ ส่งผลให้ตัวรับแสงรู้สภาวะที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงสภาวะของสัญญาณทางด้านเอาต์พุตเพื่อนำไปใช้งานต่อไป
เซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุมีหลายประเภท
เซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุ หากแบ่งตามรูปแบบของวิธีการตรวจวัด แบ่งได้ 3 ประเภทได้แก่
- Through beam sensor คือ เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุที่มีการติดตั้ง ตัวรับและตัวส่ง อยู่ตรงข้ามกัน
- Retro-reflective sensor with polarization filter คือ เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุ โดยใช้แสงที่สะท้อนกับแผ่นสะท้อนแสงที่ติดตั้งอยู่ตรงข้ามกัน สะท้อนกลับมายังตัวรับสัญญาณ
- Diffuse sensor คือ เซ็นเซอร์แสดงตรวจจับวัตถุโดยใช้แสง สะท้อนจากวัตถุโดยตรงสะท้อนกลับมายังตัวรับสัญญาณ
- พิเศษ Diffuse sensor with background suppression ของทาง Baumer สามารถตรวจจับวัตถุที่มีสีผิวต่างกันได้ในระยะตรวจจับที่เท่ากัน
Through beam sensor ตัวรับ-ตัวส่ง ติดตั้งตรงข้ามกัน
เซ็นเซอร์แสงประเภท Through beam sensor ประกอบด้วยตัวส่งและตัวรับที่ติดตั้งตรงข้ามกัน สามารถตรวจจับวัตถุ ได้เกือบทุกชนิดและมีระยะการตรวจจับไกลที่สุดของ Photoelectric Sensor โดยแต่ละครั้งที่วัตถุขวางลำแสงระหว่างตัวส่งและตัวรับ การตอบสนองทางไฟฟ้าของทรานซิสเตอร์ตัวรับหรือไดโอดตัวรับจะเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถใช้เพื่อตรวจจับการมีอยู่ของวัตถุ และส่งสัญญาณเอาต์พุต เพื่อนำเอาไปใช้งานต่อไป
เซ็นเซอร์แสงประเภท Through beam sensor นั้นจะความกว้างของเส้นผ่านศูนย์กลางของลำแสงที่เกิดการขนาดตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น แต่จะมีพื้นที่แอคทีฟ (Active area) มีขนาดเท่ากับเลนส์ของตัวส่งและตัวรับของเซ็นเซอร์เท่านั้น ดังนั้น การติดตั้งใช้งาน จำเป็นต้องให้ตัวส่งและตัวรับติดตั้งในแนวตรงข้ามกัน ในพื้นที่แสงสามารถส่งถึงกันได้ จึงจะสามารถใช้งานได้
Retro-reflective sensor with polarization filter เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุ โดยใช้แผ่นสะท้อนแสงที่ติดตั้งอยู่ตรงข้ามกัน
เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุ ประเภท Retro-reflective sensor with polarization filter จะประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์แสงแบบตัวส่งและตัวรับรวมอยู่ในตัวเรือนเดียวกัน ลำแสงที่ส่งผ่านจะถูกสะท้อนด้วยแผ่นสะท้อนแสงหรือ Polarization filter เพื่อให้กระทบกับเครื่องรับ เพื่อตรวจจับการหากมีวัตถุมาขวางลำแสง เซ็นเซอร์จะตรวจจับและส่งสัญญาณเอาต์พุต เพื่อนำเอาไปใช้งานต่อไป
การติดตั้งและการตรวจจับของเซ็นเซอร์แสง ประเภท Retro-reflective sensor with polarization filter นั้นจะต้องมีมุมสะท้อนของแผ่นสะท้อนแสงน้อยว่า 15 องศา เพื่อประสิทธิภาพในการสะท้อนแสงในการตรวจจับวัตถุ
แผ่นสะท้อนแสง หรือ polarization filter ที่นำมาตรวจจับกับเซ็นเซอร์แสงนั้นจำเป็นที่จะต้องมีขนาดที่เล็กกว่าวัตถุที่ใช้ตรวจจับ เพื่อไม่ให้เกิดแสงสะท้อนเล็ดลอดไปยังตัวรับของเซ็นเซอร์ได้จนเกิดความผิดพลาดในการตรวจจับ
Diffuse sensor เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุโดยใช้แสง สะท้อนจากวัตถุโดยตรง
เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุ ประเภท Diffuse sensor คือ เซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุแบบตัวส่งและตัวรับรวมอยู่ในตัวเรือนเดียวกัน โดยลำแสงที่ถูกส่งผ่าน จะสะท้อนกลับจากวัตถุโดยตรง ซึ่งเซ็นเซอร์ชนิดนี้ จะตรวจจับวัตถุที่สามารถสะท้อนแสงกลับมาได้เท่านั้น หากโปร่งแสงจะไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะไม่สามารถสะท้อนแสงกลับมา โดยที่สี พื้นผิว และความสว่างของวัตถุ จะมีผลต่อระยะตรวจจับเพราะการสะท้อนของแสงในแต่ละพื้นผิวไม่เหมือนกันและการดูดกลืนแสงในแต่ละสีจะไม่เท่ากัน
Diffuse sensor with background suppression ของทาง Baumer พื้นผิวสัมผัสแบบไหนก็สามารถตรวจจับได้
เซ็นเซอร์แบบสะท้อนวัตถุ ไม่เพียงแต่ตรวจจับปริมาณแสงที่สะท้อนวัตถุ แต่ยังรับรู้ระยะห่างของวัตถุไปยังเซ็นเซอร์ด้วย โดยวัตถุจะจับคุณสมบัติสีและพื้นผิวจะไม่มีผลต่อการตรวจจับ แต่เซ็นเซอร์จะสนใจระยะทางระหว่างเซ็นเซอร์และวัตถุที่จับแทนค่าความเข้มของแสงที่สะท้อนกลับมา
ชนิดของต้นกำเนิดแสงที่มีเฉพาะใน Photoelectric Sensor ของ Baumer
1. ต้นกำเนินแสงชนิด Laser ข้อดีคือติดตั้งง่ายและแสงมีขนาดเล็กสามารถตรวจจับวัตถุขนาดเล็กได้มีความละเอียดมากกว่าตัวกำเนิดแสงชนิดอื่น และมีระยะการตรวจจับได้ไกล ข้อเสียคือราคาแพงเหมาะกับการตรวจจับวัตถุที่มีขนาดเล็กและใช้ความคมของลำแสงสูง
2. ต้นกำเนินแสงชนิด Baumer PinPoint LED พิเศษเฉพาะในเซ็นเซอร์แสงของทาง Baumer ที่มีขนาดลำแสงที่เล็กกว่าและมีลำแสงที่คมกว่า LED ทั่วไป และมีราคาถูกกว่าชนิด Laser กับ ชนิด Infrared มาก การติดตั้งใช้งานนั้นง่าย
3. ต้นกำเนินแสงชนิด LED ทั่วไป สามารถตรวจจับวัตถุได้ แต่ข้อเสียคือแสงที่ยิงออกไปยิ่งไกลก็ยิ่งบานออกเหมือนไฟฉาย เมื่อจับวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าแสงที่บานออก เซ็นเซอร์จะรับแสงที่สะท้อนกลับมาทั้งหมด ทั้งวัตถุที่ต้องการตรวจจับและของข้างๆอาจเป็นกำแพงหรือสิ่งที่เราไม่ต้องการจะตรวจจับเหมาะกับการตรวจจับทุกประเภท
4. ต้นกำเนินแสงชนิด Infrared จะไม่มีแสงจากเซ็นเซอร์เข้าตา ข้อเสียคือราคาแพง และติดตั้งยากเพราะต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการปรับตั้ง เพราะไม่สามารถมองเห็นแสงด้วยตาเปล่าได้ แต่ข้อดีคือสามารถใช้งานได้กับวัตถุทุกประเภทเหมือนกับ LED แต่แค่ไม่มีแสงรบกวน
ตัวอย่างการนำเซ็นเซอร์แสงตรวจจับวัตถุไปติดตั้งใช้งาน
การตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนผ่าน โดยใช้เซ็นเซอร์แสงชนิด Retro Reflective
การตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนผ่านดังภาพ เป็นการติดตั้งเซ็นเซอร์แสงชนิด Retro Reflective โดยในเซ็นเซอร์จะมีทั้งตัวรับและตัวส่งในตัวเดียวกัน โดยฝั่งตรงข้ามมีการติดตั้งแผ่นสะท้อนแสง (Polarization filter) เมื่อมีวัตถุเคลื่อนตัดผ่าน ทำให้ลำแสงไม่สามารถสะท้อนกลับมายังตัวรับที่อยู่ในเซ็นเซอร์ได้ ตัวเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณเอาต์พุตเพื่อนำเอาไปใช้งานต่อไป เช่น นำไปนับจำนวนสินค้าเพื่อบรรจุลงในกล่อง เป็นต้น
การตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนผ่าน โดยใช้เซ็นเซอร์แสงชนิด Diffuse Sensors
การตรวจจับกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เคลื่อนที่อยู่บนสายพานลำเลียง โดยใช้เซ็นเซอร์แสงชนิด Diffuse Sensors ที่มีตัวรับและตัวส่งอยู่ในตัวเดียวกัน และไม่ต้องมีการติดตั้งแผ่นสะท้อนในฝั่งตรงข้ามกัน ทำให้สะดวกในการติดตั้งใช้งาน เมื่อมีวัตถุมาขวางลำแสง ตัวเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณเอาต์พุตเพื่อนำไปใช้งานต่อไปเช่นเดียวกัน
สนใจ Photoelectric Sensors ยี่ห้อ Baumer
สามารถติดต่อได้ทาง
Flowmaster (Thailand) Co.,Ltd.
31 Sukhaphiban 2 Rd., Prawet, Prawet, Bangkok 10250 Thailand
Tel : (+ 66) 2100-6386, (+ 66) 2329-1982
Fax: (+ 66) 2100-6384
Mobile : +66 (9) 8263-8778
Email : mantana.p@flowmaster.co.th , sales@flowmaster.co.th
Website : www.flowmaster.co.th
Line : @flowmaster
Facebook : flowmasterthailand
0 ความคิดเห็น